Engineering1986 > สาระความรู้ > Foot Valve เสื่อมสภาพ ภัยเงียบในระบบ Fire Pump สาเหตุหลักที่ทำให้ปั๊มดับเพลิง “ดูดน้ำไม่ขึ้น” ยามฉุกเฉิน
Foot Valve เสื่อมสภาพ ภัยเงียบในระบบ Fire Pump สาเหตุหลักที่ทำให้ปั๊มดับเพลิง “ดูดน้ำไม่ขึ้น” ยามฉุกเฉิน

ระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (Fire Pump) คือหัวใจสำคัญในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน แต่เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นจริง สิ่งที่ผู้ดูแลระบบไม่อยากเผชิญที่สุดคือสัญญาณเตือนของปั๊มที่ทำงาน แต่กลับ “ดูดน้ำไม่ขึ้น”” ซึ่งปัญหานี้มักมีต้นตอมาจากความเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ที่ถูกซ่อนอยู่ใต้น้ำ นั่นคือ Foot Valve (วาล์วหัวกะโหลก)
Foot Valve คืออะไร และมีความสำคัญต่อ Fire Pump อย่างไร?
Foot Valve หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาไทยว่า วาล์วหัวกะโหลก หรือหัวกะโหลกปั๊ม คือ วาล์วกันกลับท่อทางดูด เป็นวาล์วชนิดหนึ่งที่ติดตั้งอยู่ที่ปลายสุดของท่อดูด (Suction Pipe) ของเครื่องสูบน้ำ โดยปกติจะอยู่ใต้น้ำในบ่อน้ำ, ถังเก็บน้ำ, หรือแหล่งน้ำเปิดอื่น ๆ
- หน้าที่หลักของ Foot Valve
Foot Valve ถูกจัดเป็นวาล์วกันกลับ (Check Valve) ชนิดหนึ่ง แต่มีความพิเศษตรงที่มาพร้อมกับตะแกรงกรอง (Strainer) โดยมีหน้าที่หลัก 2 ประการที่สำคัญต่อ Fire Pump แบบดูดน้ำ (Suction Lift) คือ
- ป้องกันการไหลย้อนกลับ (Preventing Backflow)
Foot Valve ทำงานแบบทางเดียว (One-way Valve) อนุญาตให้น้ำไหลเข้าสู่ปั๊มได้เท่านั้น แต่จะปิดตัวลงโดยอัตโนมัติเมื่อปั๊มหยุดทำงาน หรือเมื่อไม่มีแรงดูด (Suction Force) เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่บรรจุอยู่ในท่อดูดไหลย้อนกลับออกไปยังแหล่งน้ำ
- รักษาสภาพการล่อปั๊ม (Maintaining Pump Prime)
การที่ Foot Valve ปิดตัวลงเมื่อปั๊มหยุดทำงาน จะช่วย รักษา Prime (รักษาน้ำ) ในตัวปั๊มและท่อดูด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับปั๊มประเภท End Suction และ Horizontal Split Case ที่ไม่สามารถสร้างแรงดูดได้เองหากไม่มีน้ำบรรจุอยู่ภายใน (Dry Running) หากปั๊มสูญเสีย Prime เมื่อต้องการใช้งานในภาวะฉุกเฉิน ปั๊มอาจทำงานโดยปราศจากน้ำ (Dry Run) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความร้อนสูงเกินไปและเสียหายอย่างรุนแรงต่อซีล (Seal) และส่วนประกอบภายในได้
- ป้องกันสิ่งแปลกปลอม (Debris Protection)
ตะแกรงกรอง (Strainer) ที่มาพร้อมกับ Foot Valve ทำหน้าที่ป้องกันเศษหิน, ตะกอน, สาหร่าย หรือสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ไม่ให้ถูกดูดเข้าไปในระบบท่อและตัวปั๊ม ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอุดตันหรือความเสียหายต่อใบพัด (Impeller)
ส่วนประกอบและหลักการทำงานของฟุตวาล์ว (Foot Valve)

ตะแกรง (Strainer)
ทำหน้าที่กรองเศษดิน คราบตะไคร้น้ำ เศษขยะ เช่น เศษไม้ ใบไม้ กิ่งไม้ ไม่ให้เข้าไปอุดตันในปั๊มน้ำหรือในท่อการเลือกใช้ฟุตวาล์วที่มีตะแกรงกรองแบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับ ขนาดและปริมาณของสิ่งแปลกปลอมในแหล่งน้ำ หากเลือกผิด อาจทำให้ประสิทธิภาพของปั๊มลดลงหรือเกิดความเสียหายได้
- ตะแกรงกรองแบบรูห่างหรือรูใหญ่
– การใช้งาน: เหมาะสำหรับสูบน้ำที่มีสิ่งสกปรกขนาดใหญ่หรือมีความขุ่นไม่มาก เช่น น้ำในสระน้ำ, แหล่งน้ำตามธรรมชาติ หรือการสูบน้ำเพื่อการเกษตร
– ข้อดี: ลดแรงต้านการไหลของน้ำได้ดี ทำให้ปั๊มไม่ต้องทำงานหนักมาก และไม่อุดตันง่าย
– ข้อเสีย: ไม่สามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็กได้
*นิยมใช้กับระบบปั๊มสูบน้ำดับเพลิง เพราะต้องการแรงดันสูง โดยความละเอียดของการกรองด้านการสูบน้ำ จะมีตะแกรงกรอง Y-strainer ที่ท่อทางดูดติดตั้งเพิ่มเติม
- ตะแกรงกรองแบบรูถี่หรือรูละเอียด
– การใช้งาน: เหมาะสำหรับสูบน้ำที่มีสิ่งสกปรกขนาดเล็ก เช่น ทรายหรือตะกอนเล็กๆ ในแหล่งน้ำบาดาล หรือน้ำจากระบบบำบัดที่ผ่านการกรองหยาบมาแล้ว
– ข้อดี: ป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกขนาดเล็กเข้าไปทำความเสียหายกับใบพัดหรือซีลของปั๊มได้
– ข้อเสีย: อาจเกิดการอุดตันได้ง่ายกว่าแบบรูใหญ่ ทำให้ต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ และทำให้แรงดันสูญเสียเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ลิ้นปิด-เปิด (Disc) ทำหน้าที่กั้นน้ำไม่ให้ไหลย้อนกลับ
เมื่อปั๊มน้ำทำงาน น้ำจะไหลผ่านท่อดูดเข้าสู่ปั๊มน้ำ ลิ้นปิด-เปิดจะเปิดขึ้นเพื่อให้น้ำไหลผ่านได้ เมื่อปั๊มน้ำหยุดทำงาน แรงดันน้ำจะดันลิ้นปิด-เปิดให้ปิดสนิท ทำให้น้ำไม่ไหลย้อนกลับ
Foot Valve แบ่งตามลักษณะการทำงานของลิ้นวาล์วได้ 2 ประเภท
- แบบลิ้นสวิง (Swing Check Valve):
ลักษณะ: ลิ้นวาล์วมีลักษณะเป็นแผ่นโลหะหรือพลาสติกที่เปิด-ปิดด้วยบานพับ เมื่อน้ำถูกดูด ลิ้นจะเปิดออก และเมื่อปั๊มหยุดทำงาน ลิ้นจะสวิงกลับมาปิด
ข้อดี: แรงดันน้ำที่ใช้ในการเปิดลิ้นน้อย จึงช่วยผ่อนแรงปั๊มได้ดี
ข้อเสีย: ไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งในแนวนอนหรือแนวเฉียง เพราะลิ้นอาจเปิดเผยอ ทำให้กันน้ำย้อนได้ไม่สนิท
- แบบลิ้นสปริง (Spring-Loaded/Lift Check Valve)
ลักษณะ: ลิ้นวาล์วมีลักษณะเป็นแผ่นหรือลูกบอลที่ถูกดันด้วยสปริง เมื่อปั๊มดูดน้ำ แรงดันน้ำจะเอาชนะแรงสปริงทำให้ลิ้นเปิด เมื่อปั๊มหยุดทำงาน แรงสปริงจะดันลิ้นกลับมาปิด
ข้อดี: สามารถติดตั้งได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง เพราะสปริงจะทำหน้าที่ปิดลิ้นให้สนิทเสมอ
ข้อเสีย: ต้องใช้แรงดันจากปั๊มมากกว่าแบบลิ้นสวิงเพื่อเอาชนะแรงสปริง
*นิยมใช้กับระบบปั๊มสูบน้ำดับเพลิง เพราะเป็นระบบที่มีมีแรงดันสูง
การเลือกประเภท Foot Valve และการติดตั้งที่เหมาะสม

Foot Valve ต้องติดตั้งอยู่ในสภาวะที่อาจมีการสัมผัสกับน้ำตลอดเวลา ดังนั้นวัสดุจึงต้องมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง และต้องมี การติดตั้ง Foot Valve ถูกต้องและปลอดภัย มีขนาดที่เหมาะสม มีจุดยึดต่อที่ทนทานและมั่นคง เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก Foot Valve มีน้ำหนักมาก และอาจเกิดการสั่นสะเทือนในขณะที่ปั๊มทำงาน การติดตั้งจึงต้องมั่นคงแข็งแรง
หลักการเลือกขนาด Foot Valve ที่เหมาะสม :
ขนาดของฟุตวาล์วที่พบเห็นได้บ่อยในตลาดสำหรับการใช้งานในระบบปั๊มน้ำทั่วไปจนถึงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีหลากหลาย ทั้ง ตั้งแต่ขนาด 1/2 นิ้ว ไปจนถึง 12 นิ้ว
- ขนาดเล็ก (Small Sizes): เริ่มต้นที่ 1/2 นิ้ว หรือ 3/4 นิ้ว นิยมใช้กับปั๊มน้ำบ้านเรือนขนาดเล็ก หรือปั๊มที่ใช้ในงานเกษตรกรรมที่ไม่ต้องการอัตราการไหลสูง
- ขนาดกลาง (Medium Sizes): ตั้งแต่ 1 นิ้ว ไปจนถึง 4 นิ้ว เป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้มากที่สุดในระบบอาคารพาณิชย์ โรงงานขนาดเล็ก และระบบชลประทาน
- ขนาดใหญ่ (Large Sizes): ตั้งแต่ 6 นิ้ว ไปจนถึง 12 นิ้ว หรือใหญ่กว่า มักใช้ในระบบประปาขนาดใหญ่ ระบบบำบัดน้ำเสีย หรือระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (Fire Pump) สำหรับอาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการอัตราการไหลสูงมาก
หลักการเลือกขนาดที่สำคัญ
การเลือกขนาดฟุตวาล์วที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพของปั๊ม โดยมีหลักการที่ใช้พิจารณา ดังนี้
- ไม่ควรเล็กกว่าท่อดูด: ฟุตวาล์วต้องมีขนาด เท่ากับ หรือ ใหญ่กว่า ขนาดท่อดูดที่เชื่อมต่อเข้ากับตัวปั๊มเสมอ หากฟุตวาล์วเล็กกว่า จะเกิดข้อจำกัดในการไหล (Restriction) และเพิ่มแรงเสียดทาน (Friction Loss) อย่างรุนแรง
- แนวคิดการขยายขนาด (Up-sizing): ในทางปฏิบัติเพื่อลดแรงเสียดทานให้น้อยที่สุด มักนิยมเลือกฟุตวาล์วที่มีขนาด ใหญ่กว่าท่อดูด 1 ขนาด (เช่น ท่อดูด 3 นิ้ว ใช้ฟุตวาล์ว 4 นิ้ว) เพื่อให้มั่นใจว่าการไหลเข้าสู่ท่อดูดจะราบรื่นที่สุด
- การคำนวณ Head Loss: ในระบบวิกฤต เช่น Fire Pump แม้ว่ามาตรฐาน NFPA 20 จะมีข้อจำกัดในการใช้ฟุตวาล์ว แต่หากมีการใช้ในระบบอื่น ๆ ที่ต้องการความแม่นยำ จะต้องมีการคำนวณหาค่า การสูญเสียแรงดัน (Head Loss) ที่เกิดขึ้นจากฟุตวาล์ว ณ อัตราการไหลสูงสุด เพื่อให้แน่ใจว่าค่าที่สูญเสียไปนั้นยังคงอยู่ในช่วงที่ระบบยอมรับได้ และไม่ทำให้เกิดปรากฏการณ์โพรงอากาศ (Cavitation) ในตัวปั๊ม
วัสดุที่แนะนำ :
- Cast Iron / Ductile Iron: เป็นวัสดุมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับน้ำจืด
- Bronze / Stainless Steel: ใช้สำหรับระบบที่ดูดน้ำทะเล, น้ำกร่อย หรือของเหลวที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการผุกร่อนในระยะยาว
- PVC/Plastic: มักใช้สำหรับปั๊มขนาดเล็ก หรือระบบชั่วคราว ไม่เหมาะสมกับระบบ Fire Pump เนื่องจากไม่ทนทานต่ออุณหภูมิและความดันสูงตามมาตรฐาน
ตำแหน่งและระยะห่างที่เหมาะสม :
- การจมใต้น้ำที่เพียงพอ (Sufficient Submergence): Foot Valve จะต้องจมอยู่ใต้น้ำอย่างน้อย 4 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ (4D) และควรมีระยะห่างจากพื้น (Bottom Clearance) อย่างน้อย 1-2 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ เพื่อป้องกันไม่ให้ปั๊มดูดตะกอนหรืออากาศจากผิวน้ำ (Vortex) เข้าสู่ระบบ
- ระยะห่างจากผนัง: ต้องมีระยะห่างจากผนังของแหล่งน้ำที่เพียงพอเพื่อให้ตะแกรงกรองสามารถดูดน้ำได้เต็มพื้นที่โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
- การติดตั้งในแนวตั้ง: Foot Valve ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งในแนวตั้งฉากกับพื้นโลก (Vertical Installation) เพื่อให้ลิ้นวาล์วสามารถเปิด-ปิดด้วยแรงโน้มถ่วงได้อย่างสมบูรณ์เมื่อปั๊มหยุดทำงาน
จุดยึดต่อที่ทนทานและมั่นคง :
เนื่องจาก Foot Valve มีน้ำหนักมาก และอาจเกิดการสั่นสะเทือนในขณะที่ปั๊มทำงาน การติดตั้งจึงต้องมั่นคงแข็งแรง
- อุปกรณ์ยก: ต้องมีจุดยึด (Eye Bolt) สำหรับการยกและติดตั้ง โดยใช้รอกโซ่หรืออุปกรณ์ยกที่เหมาะสม เนื่องจาก Foot Valve มีน้ำหนักมาก
- ความสมดุล: ต้องมั่นใจว่าท่อดูดและ Foot Valve ถูกยึดอย่างมั่นคง และไม่เกิดการเอียงหรือหลุดออกจากจุดศูนย์ถ่วง
การเลือกใช้ Foot Valve ในระบบ Fire Pump ตามเครื่องสูบน้ำดับเพลิง ที่แตกต่างตามประเภทปั๊มและมาตรฐาน NFPA 20 ฉบับล่าสุด
Foot Valve กับ Fire Pump ประเภทต่าง ๆ
- ปั๊มที่ต้องใช้ Foot Valve: Fire Pump ประเภท End Suction และ Horizontal Split Case เมื่อติดตั้งในระบบที่ต้องดูดน้ำจากระดับที่ต่ำกว่าปั๊ม (Suction Lift) จำเป็นต้องมี Foot Valve เพื่อรักษา Prime
- ปั๊มที่ไม่ต้องการ Foot Valve: Fire Pump ประเภท Vertical Turbine ถูกออกแบบมาให้ใบพัดจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้สามารถดูดน้ำได้โดยตรงจากระดับน้ำที่ต่ำกว่าโดยไม่จำเป็นต้องมี Foot Valve ช่วยรักษา Prime
การออกแบบและการติดตั้งระบบ Fire Pump ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยมาตรฐานสากล NFPA 2020 (Standard for the Installation of Stationary Pumps for Fire Protection) เพื่อให้มั่นใจในความน่าเชื่อถือสูงสุดเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ตาม ข้อกำหนดสำคัญของ NFPA 20 ต่อท่อดูดและ Foot Valve
NFPA 20 มีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องของการออกแบบท่อดูดเพื่อลดความเสี่ยงของการอุดตันและการสูญเสียแรงดูด (Suction Loss)
| หัวข้อ | ข้อกำหนดโดยทั่วไปตามมาตรฐาน NFPA 20 | ความหมายและการประยุกต์ใช้ |
| การใช้ตะแกรงกรอง (Strainers) | โดยทั่วไป ห้าม ติดตั้งตะแกรงกรอง (Strainers) บนท่อดูดของปั๊ม Horizontal Split Case และ End Suction โดยเด็ดขาด (ข้อกำหนด 4.14.7.1) | สาเหตุหลักคือการป้องกันไม่ให้ตะแกรงกรองเกิดการอุดตัน ซึ่งจะส่งผลให้ปั๊มดับเพลิงสูญเสียแรงดูดทันที และทำให้ระบบดับเพลิงล้มเหลว |
| การใช้ Foot Valve | Foot Valve ถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่มี Strainers ในตัว ซึ่งถูกห้ามใช้งานในปั๊ม Horizontal และ End Suction ในระบบ Suction Lift ตามเจตนารมณ์ของมาตรฐาน | หากต้องมีการดูดน้ำจากแหล่งน้ำเปิด (Suction Lift) ที่มีเศษตะกอน มักต้องพิจารณาใช้ Vertical Turbine Pump ที่ใบพัดจมใต้น้ำแทน หรือติดตั้ง Priming System เข้ามาช่วยในการรักษา Prime แทน Foot Valve |
| การรักษา Prime | สำหรับปั๊ม Horizontal/End Suction ที่ติดตั้งในระบบ Suction Lift จะต้องมีการติดตั้ง Priming System (ระบบล่อปั๊มอัตโนมัติ) เพื่อทดแทนการพึ่งพา Foot Valve ในการรักษา Prime | ระบบล่อปั๊มจะช่วยรักษาน้ำในตัวปั๊มให้เต็มอยู่เสมอ ทำให้มั่นใจได้ว่าปั๊มจะสามารถเริ่มทำงานได้ทันทีเมื่อเกิดเพลิงไหม้ |
| ข้อจำกัดแรงดัน (Pressure Limitation) | NFPA 20 กำหนดความเร็วของน้ำสูงสุดในท่อดูดที่อัตราการไหล 150% ของอัตราไหลพิกัด (Rated Flow) ไม่ควรเกิน 15 ฟุตต่อวินาที (4.6 เมตร/วินาที) | ข้อกำหนดนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความปั่นป่วนของน้ำ (Turbulence) ในท่อดูด ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโพรงอากาศ (Cavitation) และสร้างความเสียหายต่อตัวปั๊มได้ |
เหตุผลที่ NFPA 20 เข้มงวดต่อการติดตั้ง Foot Valve/Strainers
แม้ว่าในระบบปั๊มน้ำทั่วไป Foot Valve จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่สำหรับ Fire Pump ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่ต้องทำงานได้ 100% ในสถานการณ์วิกฤต การมีตะแกรงกรอง (Strainers) ที่อาจอุดตันได้ ถือเป็นความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้
การอุดตันเพียงเล็กน้อยที่ Foot Valve อาจลดอัตราการไหล (Flow Rate) และแรงดัน (Pressure) ที่เข้าสู่ปั๊ม จนทำให้ปั๊มไม่สามารถส่งน้ำตามข้อกำหนดของ NFPA 20 ได้ ดังนั้น แนวทางปฏิบัติมาตรฐานจึงมุ่งเน้นไปที่การออกแบบแหล่งน้ำ (เช่น ถังเก็บน้ำ) ให้สะอาดและปราศจากตะกอนตั้งแต่ต้นทาง และใช้ระบบล่อปั๊ม (Priming System) ที่เชื่อถือได้แทน
กรณี Foot Valve ในระบบเก่า
ในประเด็นของ Foot Valve ในระบบเก่าที่ติดตั้งปั๊ม Horizontal Split Case ในรูปแบบ Suction Lift (ซึ่งมาตรฐานใหม่ไม่แนะนำให้ใช้) การพิจารณาจะเป็นดังนี้:
- ถ้า Foot Valve ทำงานได้ปกติ: อาจสามารถอะลุ่มอะล่วยได้ ตราบใดที่ระบบยังคง รักษา Prime ได้อย่างสม่ำเสมอ และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพ
- ถ้า Foot Valve เสื่อมสภาพ (กรณีเปลี่ยนอุปกรณ์): เมื่อต้องเปลี่ยน Foot Valve ใหม่ หรือพบว่า Foot Valve เดิมเป็นสาเหตุของการสูญเสีย Prime บ่อยครั้ง ควรใช้โอกาสนี้ในการปรับปรุงระบบ โดย
- เปลี่ยนไปใช้ระบบ Priming Tank อัตโนมัติ: ตามที่ NFPA 20 แนะนำ เพื่อทดแทนการพึ่งพา Foot Valve ในการกักน้ำ
- พิจารณาเปลี่ยนประเภทปั๊ม: หากแหล่งน้ำไม่น่าเชื่อถือ อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ Vertical Turbine Pump ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับเงื่อนไข Suction Lift และไม่ต้องกังวลเรื่องการรักษา Prime
- การตรวจสอบและบำรุงรักษา Foot Valve (Maintenance)
Foot Valve เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานหนักและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง การบำรุงรักษาเชิงป้องกันจึงสำคัญมาก
– การอุดตันของตะแกรงกรอง (Strainer Clogging): เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งน้ำเปิดที่มีตะกอน การอุดตันจะลดอัตราการไหลเข้าสู่ปั๊มอย่างรวดเร็ว
– การรั่วของลิ้นวาล์ว (Valve Leakage): เมื่อลิ้นวาล์วหรือซีล (Seal) เสื่อมสภาพ หรือมีเศษตะกอนติดอยู่ จะทำให้ Foot Valve ปิดไม่สนิท ส่งผลให้น้ำไหลย้อนกลับออกจากท่อดูด ปั๊มจะ สูญเสีย Prime และไม่สามารถทำงานได้เมื่อมีการสั่งเดินเครื่อง
– การผุกร่อน (Corrosion): การผุกร่อนของตัววาล์วหรือตะแกรงกรอง ทำให้โครงสร้างอ่อนแอและอาจพังทลายได้
การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าระบบจะต้องปรับปรุงหรือไม่ ควรดำเนินการโดย วิศวกรที่ได้รับใบอนุญาต โดยอ้างอิงจาก รายงานการตรวจสอบประสิทธิภาพ (Performance Test) และกฎหมายข้อบังคับในพื้นที่นั้น ๆ เป็นหลัก การรักษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบดับเพลิงจะต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ การเลือกติดตั้งและการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบดับเพลิงของคุณจะพร้อมใช้งาน 100% ในทุกสถานการณ์
Engineering 1986 เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบ Fire Pump ตามมาตรฐานสากล NFPA เราพร้อม ให้บริการ ปรับปรุงแก้ไขระบบ Corrective maintenance fire pump system บริการติดตั้ง
ติดต่อ Engineering 1986 วิศวกรตรวจสอบระดับปั๊มดับเพลิง งานซ่อมฉุกเฉิน งานซ่อมรายครั้ง
🔸 บริการงานซ่อมบำรุงระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิงประจำปี Preventive Maintenance Fire Pump System ต่อครั้ง/รายปี จากทีมงานมืออาชีพ พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย มีเอกสารรับรองมาตรฐานเครื่องมือ
🔸 บริการงานซ่อมเชิงแก้ไข ให้เป็นไปตามมาตรฐาน Corrective maintenance Fire pump System
🔸 บริการงานทดสอบระบบดับเพลิงด้วยน้ำ Fire Pump Performance test , Hydrants test , Sprinkler test
🔹 บริการครบวงจร ไม่ว่าจะงานด้านตรวจสอบและแจ้งข้อเสนอแนะในการซ่อมบำรุง ให้คำปรึกษางานซ่อมตลอดระยะเวลาสัญญา หรืองานซ่อม พร้อมจบทุกปัญหาให้ลูกค้า ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล
🔹 ติดตามประวัติการซ่อมบำรุงได้จากระบบออนไลน์ เพียงสแกน QR code สติ๊กเกอร์รับประกันการตรวจสอบจาก Engineering 1986 ให้พร้อมสำหรับการ Audit ทุกเวลา
👨🏻🔧 เลือกใช้บริการ Engineering 1986 มีใบรับรองจากสภาวิศวกร ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยได้เสมอ
24 Hours Hotline ‼️
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ปรึกษางานบริการหรือสินค้าอื่น ๆ ได้ที่ 👇🏻
👩🏻🔧ฝ่ายขาย
☎️ Tel : 02-159-9477
☎️ Tel : 065-440-4513
📧 E-mail : sales@engineering1986.com
📧 E-mail : manager@engineering1986.com
👨🏻🔧ฝ่ายวิศวกรรม
🟢Line : @engineering1986 หรือ https://lin.ee/thW3g86
☎️ Tel : 02-159-9477
☎️ Tel : 063-072-9452
ติดตามเราได้ที่
Facebook : Engineering1986
Tiktok : Engineering1986







